ข้อความ ประกอบด้วย"คำ"(word) หรือกลุ่มคำซึ่งนำมาเรียงต่อเนื่องกันเป็นวลี (phrase) หรือประโยค(sentence) จะมีหน้าที่อย่างหนึ่ง
อย่างใดใน 8 หน้าที่ ตามหลักไวยากรณ์อังกฤษ ( grammar
)
หน้าที่ของคำเรียกว่า
"ชนิดของคำ" ( parts of
speech ) ซึ่งได้แก่
Noun (คำนาม)
Pronoun (คำสรรพนาม)
Verb (คำกริยา)
Adverb (คำกริยาวิเศษณ์)
Adjective (คำคุณศัพท์)
Preposition (คำบุพบท)
Conjunction (คำสันธาน)
Interjection (คำอุทาน)
Noun (คำนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ
ทั้งที่มีรูปร่างเช่น โต๊ะ สมุด และไม่มีรูปร่างเช่น วัน เวลา อากาศ
รวมทั้งชื่อของคน สัตว์ หรือสิ่งของ เช่น
คน: man
father lady
สัตว์: dog cat bird
สิ่งของ: city table month
ชื่อคน: John Mary
ชื่อสัตว์: Lassie Lucifer
ชื่อสิ่งของ: Bangkok January
Pronoun (คำสรรพนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำนามเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวซ้ำ
เช่น I, we, you, he, she, it หรือใช้แทนคำนามที่เราไม่ทราบว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร
หรือใคร เช่น someone, something
แทนคำซ้ำ Mai is a beautiful woman. Mai is a popular singer. = Mai is
a beautiful woman. She is a popular singer.
ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร Something is missing. ไม่รู้ว่าอะไรหายไป
Verb (คำกริยา)
เป็นคำที่บอกอาการหรือการกระทำ ( action ) หรือบอกความเป็นอยู่ ( being ) หรือสภาวะความเป็นอยู่ ( state of being ) เช่น fly,
is, am, seem, look.
การกระทำ Birds fly. นกบิน
ความเป็นอยู่ Danny is a boy. แดนนี่เป็นเด็กผู้ชาย
สภาวะความเป็นอยู่ He looks good. เขาแลดูดี
Adjectives (คุณศัพท์)
เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย noun หรือ pronoun ให้ไดัรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ
เพิ่มขึ้น เช่น new, ugly, ill, happy, afraid, careless.
He bought a new car. เขาซื้อรถใหม่.( new ขยาย car ซึ่งเป็น noun )
They are ugly. พวกเขาน่าเกลียด
( ugly ขยาย they ซึ่งเป็น pronoun
)
Adverb (วิเศษณ์ หรือ
กริยาวิเศษณ์)
เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย verb หรือ adjective หรือ adverb
ด้วยกันเอง เช่น hard, fast, very
He works hard. เขาเป็นคนทำงานหนัก
(hard ขยาย works ซึ่งเป็น verb)
He is very rich. เขาเป็นคนจนมาก
( very ขยาย rich ซึ่งเป็น adjective
)
He works very hard.เขาเป็นคนที่ทำงานหนักมาก
( very ขยาย hard ซึ่งเป็น adverb
)
Preposition (คำบุพบท)
เป็นคำ หรือกลุ่มคำที่วางหน้า noun หรือ pronoun เพื่อแสดงว่าคำนามหรือสรรพนามนั้นเกี่ยวข้องกับคำอื่นๆในประโยคอย่างไรเช่น
on, at, in, from, within
I will see you on Monday. ฉันจะพบกับคุณในวันจันทร์
She was waiting at the restaurant.
เธอรออยู่ที่ร้านอาหาร
There is a cockroach in my room. มีแมลงสาบตัวหนึ่งในห้องฉัน
We must finish the project within
a year. ราจะต้องทำโครงการนี้ให้เสร็จใน 1 ปี
Conjunction (คำสันธาน)
เป็นคำที่ใช้เชื่อม คำ กลุ่มคำ
หรือประโยคเข้าด้วยกันเพื่อให้ความหมายสมบูรณ์ขึ้น เช่น and, but, therefore, beside, either..or
John is rich and handsome .จอห์นเป็นคนรวยและรูปหล่อ
Either you or she has to do this
job. ไม่คุณก็เธอที่จะต้องทำงานนี้
Interjection (คำอุทาน)
เป็นคำอุทานที่แสดงถึงอารมณ์
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับคำอื่นๆ ใน ประโยคเลย เช่น Oh God! , WOW, Hurrah
การพิจารณาว่าคำไหนเป็นคำชนิดใด
เราดูที่การทำหน้าที่ของมันในประโยค
คำๆเดียวอาจทำหน้าที่อย่างหนึ่งในประโยคหนึ่ง แต่อาจทำหน้าที่อย่างอื่นในประโยคอื่นดังในตารางต่อไปนี้
ต่อไปนี้เป็นการแสดงถึง Parts of Speech ต่างๆในประโยค
ต่อไปนี้เป็นประโยคที่มีทุก Parts of Speech ในประโยคเดียว
Sentence (ประโยค)
Sentence เป็นกลุ่มคำที่มาประกอบกันให้มีเนื้อความสมบูรณ์
บอกการกระทำ ความเป็นอยู่ หรือความเป็นไป ของสิ่งหนึ่งสิ่งใด
โดยทั่วไปประโยคจะมี 2 ภาคคือ subject ( ภาคประธาน ) และ predicate ( ภาคแสดง )
Phrase ( วลี )
เป็นกลุ่มคำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งประโยคที่ไม่มี
subject หรือ predicate
In case of emergency, push the
button. ในกรณีฉุกเฉินให้กดปุ่ม (In case of emergency เป็นวลี)
The woman sitting in the chair is
my mother. ผู้หญิงซึ่งนั่งที่เก้าอี้คือแม่ของฉัน (sitting
in the chair เป็นวลี)
Clause ( อนุประโยค )
เป็นกลุ่มคำที่มี subject และ predicate เหมือนประโยค
( sentence ) แต่ไม่ได้อยู่ตามลำพังจะเชื่อมติดอยู่กับอีก clause
หนึ่งเพื่อให้เป็น 1 ประโยคกล่าวคือ
ในประโยคที่มี 2 ประโยคมารวมกันแต่ละประโยคคือ clause
|
วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555
เรื่องของ ชนิดของคำ (Parts of Speech) ในภาษาอังกฤษ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น